ยินดีต้อนรับสู่ดวงชะตาของ Patricia Alegsa

ความเหนื่อยล้าเรื้อรังในผู้สูงอายุ: สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม

ความเหนื่อยล้าเรื้อรังในผู้สูงอายุ? ผู้เชี่ยวชาญจากคลีฟแลนด์คลินิกเตือนว่า: ความเหนื่อยล้าที่ต่อเนื่องอาจซ่อนโรคร้ายแรงไว้ ควรปรึกษาแพทย์ทันเวลา...
ผู้เขียน: Patricia Alegsa
04-12-2025 10:54


Whatsapp
Facebook
Twitter
E-mail
Pinterest





สารบัญ

  1. ความเหนื่อยล้าในวัยชรา? ไม่ใช่เพราะ “แก่แล้ว” 😒
  2. ความเหนื่อยล้า vs. ความเหนื่อยล้าปกติ: ไม่เหมือนกัน 😴
  3. สาเหตุที่พบบ่อย: ไม่ใช่แค่ “ขี้เกียจ”
  4. เมื่อความเหนื่อยล้ามาจากจิตใจ: ซึมเศร้า ความเหงา และความท้อแท้ 🧠
  5. สิ่งที่ผมทำกับผู้ป่วย: กลยุทธ์ปฏิบัติได้จริง 💪
  6. เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์: สัญญาณ “อย่าผัดวันประกันพรุ่ง” 🚨



ความเหนื่อยล้าในวัยชรา? ไม่ใช่เพราะ “แก่แล้ว” 😒



ขอพูดตรงประเด็น:
ความเหนื่อยล้าเรื้อรังในวัยชราไม่ใช่เรื่องปกติ
เรามาย้ำกันอีกครั้ง: ไม่ใช่เรื่องปกติ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุจาก Cleveland Clinic ยืนยันเรื่องนี้ หลายคนในวัยสูงอายุเชื่อว่าการรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นเรื่องธรรมชาติของการแก่ตัว แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเหนื่อยล้านั้นเป็น สัญญาณเตือนล่วงหน้าว่ามีบางอย่างผิดปกติ และคุณควรได้รับการตรวจทางการแพทย์

ในการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาและพูดคุยกับผู้สูงอายุ ผมมักได้ยินประโยคเช่น:

- “คงเป็นเพราะอายุแล้ว ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
- “เมื่อก่อนเดินไปตลาดได้ ตอนนี้แค่ขึ้นบันไดสองขั้นก็เหนื่อยมาก”
- “ไม่มีแรงแม้แต่จะเก็บที่นอน”

เมื่อมีคนพูดแบบนี้ ผมจะไม่ปล่อยผ่าน
ผมจะอธิบายว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณ และบางครั้งก็ส่งเสียงดังมาก ความเหนื่อยล้าที่เรื้อรังคือเสียงร้องที่ชัดเจนมาก 📢



ความเหนื่อยล้า vs. ความเหนื่อยล้าปกติ: ไม่เหมือนกัน 😴



แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุชื่อดังจาก Cleveland Clinic ดร. Ardeshir Hashmi ชี้ให้เห็นความแตกต่างสำคัญที่ผมก็เห็นในผู้ป่วยของผมเช่นกัน:


  • ความเหนื่อยล้า “ปกติ”:



- เกิดขึ้นหลังจากกิจกรรมเฉพาะ เช่น ทำความสะอาด เดินมาก หรือออกกำลังกาย
- ดีขึ้นหลังจากพักผ่อน นอนหลับดี หรือมีวันที่สงบกว่า
- ไม่ขัดขวางการทำกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณ


  • ความเหนื่อยล้าที่แท้จริง (ที่น่ากังวล):



- ไม่หายไปแม้จะพักผ่อน
- บางครั้งแย่ลงตามวันเวลา
- เกิดขึ้นแม้ไม่ได้ทำอะไรพิเศษ
- ทำให้คุณไม่มีแรงและไม่อยากทำงานง่าย ๆ เช่น:
- เทน้ำในเครื่องล้างจาน
- เดินเล่นสั้น ๆ
- เก็บที่นอน
- อาบน้ำหรือแต่งตัว

ดร. Hashmi สรุปสิ่งที่ผมได้ยินบ่อย ๆ ว่า:
แม้ว่าคุณจะมีจิตใจที่กระตือรือร้น แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง
คุณอยากทำสิ่งต่าง ๆ แต่พลังงานของคุณหมดไปกลางทาง

ผมขอถามตรง ๆ:

คุณเคยรู้สึกเหนื่อยจนเริ่มหลีกเลี่ยงสิ่งที่เคยทำได้ เช่น ออกไปข้างนอก เดิน หรือเข้าสังคมหรือไม่?
ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้



สาเหตุที่พบบ่อย: ไม่ใช่แค่ “ขี้เกียจ”



ความเหนื่อยล้าในผู้สูงอายุมักไม่ได้มีสาเหตุเดียว
ผมจะเล่าสาเหตุที่พบบ่อยจาก Cleveland Clinic และที่ผมพบเจอในทางปฏิบัติ:


  • 1. ภาวะขาดน้ำเรื้อรัง 💧



หลายคนสูงอายุดื่มน้ำน้อยเพราะ:

- ไม่รู้สึกกระหายน้ำมากนัก
- กลัวต้องปัสสาวะบ่อย
- อยากหลีกเลี่ยงการลุกขึ้นตอนกลางคืน

ผลลัพธ์คือ ปริมาณเลือดลดลง ออกซิเจนไหลเวียนน้อยลง รู้สึกอ่อนแรงและสับสนมากขึ้น
ผมเคยเจอผู้ป่วยที่คิดว่าตัวเองเป็น “เริ่มมีภาวะสมองเสื่อม” แต่จริง ๆ แค่ต้องดื่มน้ำให้มากขึ้นเท่านั้น น่าเหลือเชื่อแต่เป็นเรื่องจริง


  • 2. โรคเรื้อรัง



ตามข้อมูลจาก Cleveland Clinic, ถึง 74% ของผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง รายงานว่ารู้สึกเหนื่อยล้า
โรคเหล่านี้รวมถึง:

- มะเร็ง
- พาร์กินสัน
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคหัวใจ
- EPOC (โรคปอดเรื้อรัง)
- เบาหวาน

ร่างกายใช้พลังงานต่อสู้กับโรคเหล่านี้ ซึ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง


  • 3. ยา 💊



บางครั้งปัญหาไม่ใช่โรค แต่เป็นการใช้ยาร่วมกัน:

- ยาลดความดันโลหิต
- ยานอนหลับ
- ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด
- ยาแก้แพ้

ผมเคยเจอหลายครั้งที่ผู้ป่วยคิดว่า “กำลังจะตาย” แต่เมื่อแพทย์ตรวจสอบยาและปรับขนาดยา พลังงานก็กลับมาดีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์


  • 4. ความผิดปกติของการนอนหลับ



- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (หยุดหายใจซ้ำ ๆ ขณะนอน)
- นอนไม่หลับเรื้อรัง
- หลับแต่ไม่พักผ่อน

การนอนหลับที่ไม่ดีทำให้สมองและร่างกายอ่อนเพลีย
ผมเคยเห็นคนที่หลับหน้าทีวีแต่ตื่นขึ้นมาเหนื่อยกว่าตอนเข้านอน


  • 5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ต่อมไทรอยด์และฮอร์โมนเพศ 🔄



หลายคนจะประหลาดใจเรื่องนี้
เมื่ออายุมากขึ้น ต่อมไทรอยด์และฮอร์โมนเพศจะเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อพลังงาน:

- ภาวะไทรอยด์ต่ำ: เมตาบอลิซึมช้าลง หนาว ผิวแห้ง น้ำหนักเพิ่ม เหนื่อยล้า
- ภาวะไทรอยด์เกิน: กระวนกระวาย ใจสั่น น้ำหนักลด แต่ยังรู้สึกเหนื่อยล้า
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือตัวเทสโทสเตอโรนต่ำ: พลังงานลด อารมณ์เปลี่ยนแปลง นอนหลับแย่ ความต้องการทางเพศลดลง

ดร. Hashmi เน้นว่าฮอร์โมนควบคุมหน้าที่หลายอย่างของร่างกาย
เมื่อฮอร์โมนผิดปกติ พลังงานจะลดลงเหมือนโดมิโน่ล้ม


  • 6. โลหิตจางและภาวะขาดธาตุเหล็ก 🩸



โลหิตจางทำให้เม็ดเลือดแดงและการขนส่งออกซิเจนลดลง
ความเหนื่อยล้ามักเป็น อาการแรก

อาการอื่น ๆ ที่พบร่วมด้วย:

- เวียนหัวเมื่อลุกขึ้น
- ใจสั่น
- ท้องผูกหรือเปลี่ยนแปลงระบบขับถ่าย
- ปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติ
- หายใจไม่ทันเมื่อออกแรงเล็กน้อย

ถ้าคุณพบสิ่งเหล่านี้และรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา ควรตรวจเลือด


  • 7. สาเหตุอื่นที่ควรสงสัย



- ขาดวิตามิน B12
- หัวใจล้มเหลว
- การติดเชื้อที่ไม่มีไข้ชัดเจน (ทางเดินปัสสาวะ ปอด)
- ผลกระทบจากไข้หวัดที่รักษาไม่ดี

สรุปคือ: ความเหนื่อยล้าเป็นอาการ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
ร่างกายพยายามเตือนคุณ



เมื่อความเหนื่อยล้ามาจากจิตใจ: ซึมเศร้า ความเหงา และความท้อแท้ 🧠



ในฐานะนักจิตวิทยา ผมบอกตรง ๆ ว่า:
ซึมเศร้าในวัยชรมักแสดงออกมาในรูปแบบความเหนื่อยล้า

ผู้สูงอายุหลายคนไม่ได้พูดว่า “ฉันเศร้า” แต่พูดว่า:

- “ฉันไม่มีแรงจูงใจ”
- “ร่างกายหนักอึ้ง”
- “ไม่อยากทำอะไรเลย”
- “เหนื่อยกับทุกอย่าง”

ผู้เชี่ยวชาญจาก Cleveland Clinic ชี้ว่า:
ใน ซึมเศร้าแบบผิดปกติ คุณอาจไม่ร้องไห้หรือรู้สึกเศร้ามาก… แต่คุณจะรู้สึก หมดแรงตลอดเวลา

นอกจากนี้ ความเหงาและการแยกตัวทางสังคม ก็แปลเป็นความเหนื่อยล้าได้เช่นกัน
สมองต้องการความสัมพันธ์ การพูดคุย การสัมผัส
ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ สมองจะเข้าสู่โหมด “แบตเตอรี่ต่ำ”

ผมขอถามคำถามส่วนตัว (ตอบอย่างตรงไปตรงมา):

- คุณใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันโดยเงียบ ๆ ไม่พูดกับใครหรือไม่?
- คุณมีใครให้แชร์ความกังวลหรือความกลัวไหม?
- คุณออกจากบ้านหลายครั้งต่อสัปดาห์หรือแทบไม่เคยออกเลย?

ในการพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจกับผู้สูงอายุหลายครั้ง ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าเหลือเชื่อเมื่อพวกเขาจัดกิจกรรม:

- กลุ่มเดินเล่นเล็ก ๆ
- บ่ายเล่นเกมกระดาน
- วงอ่านหนังสือ

พลังงานทางอารมณ์มีผลต่อพลังงานทางกายมาก อย่าประเมินต่ำไป ❤️



สิ่งที่ผมทำกับผู้ป่วย: กลยุทธ์ปฏิบัติได้จริง 💪



ผมจะแบ่งปันสิ่งที่แนะนำมากที่สุดเมื่อผู้สูงอายุบอกว่า “ฉันเหนื่อยตลอดเวลา”

1. ฟังเส้นฐานของตัวเอง

แต่ละคนรู้จัก “ปกติ” ของตัวเองดี
ผมขอให้พวกเขาถามตัวเอง:

- รู้สึกเหนื่อยมานานแค่ไหนแล้ว?
- แย่ลงตามวันเวลาหรือยังคงเหมือนเดิม?
- ทำให้ต้องเลิกทำสิ่งที่เคยทำได้ไหม?

ถ้าคำตอบมีประโยคเช่น “ทำได้น้อยลงเรื่อย ๆ” หรือ “เคยทำได้แต่ตอนนี้ทำไม่ได้” นั่นคือสัญญาณเตือน

2. สังเกตอาการอื่น ๆ ที่มากับความเหนื่อยล้า

ความเหนื่อยล้ามักไม่มาเพียงอย่างเดียว
ดูว่ามีสิ่งเหล่านี้ร่วมด้วยไหม:

- หายใจลำบาก
- เวียนหัวเมื่อลุกขึ้น
- ใจสั่น
- ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงหรือถ่ายบ่อย/น้อยผิดปกติ
- ปัสสาวะสีเข้มหรือเปลี่ยนไป
- การนอนหรืออารมณ์เปลี่ยนแปลง
- สูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ

เมื่อผู้ป่วยจดบันทึกอาการเหล่านี้ในสมุดเป็นเวลา 1–2 สัปดาห์ แพทย์จะมีข้อมูลทองคำสำหรับวินิจฉัย

3. ดื่มน้ำและกินอาหารดีขึ้นอย่างจริงจัง

ไม่ใช่แค่พูดว่า “ใช่ ฉันดื่มน้ำ” เท่านั้น
ผมแนะนำว่า:

- มีขวดน้ำใกล้มือและตั้งเป้า: 2–3 แก้วตอนเช้า, 2–3 แก้วตอนบ่าย
- กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ถั่วเลนทิล ผักโขม เนื้อไม่ติดมัน
- อย่าข้ามมื้ออาหารเพราะ “ไม่หิว”

ครั้งหนึ่งผู้ป่วยหญิงวัย 78 ปีมาโดยรู้สึกหมดแรง กินอาหารตอน 11 โมงเช้าแล้วแทบไม่กินอะไรจนถึงเย็น เมื่อปรับเวลากินและเพิ่มน้ำ พลังงานของเธอดีขึ้นในสองสัปดาห์ แม้ไม่ได้หายขาดแต่ก็พัฒนาอย่างมาก

4. เคลื่อนไหวทุกวันเล็กน้อย 🚶‍♀️🚶‍♂️

ข้อผิดพลาดใหญ่คือ “เพราะเหนื่อยเลยไม่ขยับ”
แต่ถ้าไม่ขยับ กล้ามเนื้อจะลดลง และคุณจะเหนื่อยมากขึ้น เป็นวงจรที่เลวร้าย

ผมแนะนำ:

- เดินเล่นสั้น ๆ แต่เป็นประจำ
- ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยสายรัดแรงต้านทาน
- เดินบนปลายเท้าขึ้นลงเก้าอี้จับมือช่วยพยุง
- ยืดเหยียดเบา ๆ ตอนเช้าและก่อนนอน

แม้ว่าจะสูงวัย ร่างกายตอบสนองดีต่อการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและพอดี

5. ตรวจสอบกิจวัตรทางอารมณ์ของคุณ

ผมถามบ่อย ๆ ว่า:

- ตอนนี้อะไรทำให้คุณตื่นเต้น?
- กิจกรรมเล็ก ๆ ไหนที่คุณชอบจริง ๆ?
- ครั้งสุดท้ายที่คุณหัวเราะอย่างแท้จริงคือเมื่อไหร่?

พลังงานไม่ได้มาจากอาหารและการนอนเท่านั้น
มันมาจากโครงการ ความสัมพันธ์ และความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ

ตรงนี้เป็นส่วนของผมในฐานะนักโหราศาสตร์ 😉:
ผมมักพูดว่าพลังชีวิตเหมือนกับแผนภูมิวันเกิดของคุณ ถ้าคุณไม่ใช้พลังนั้นไปกับสิ่งที่คุณรัก มันจะติดขัด และเมื่อพลังติดขัด ความเหนื่อยก็จะเข้าครอบงำทั้งหมด



เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์: สัญญาณ “อย่าผัดวันประกันพรุ่ง” 🚨



ผมพูดตรง ๆ ว่า:
ถ้าความเหนื่อยล้าทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป คุณต้องได้รับการตรวจทางการแพทย์

อย่ารอ “ดูว่าจะหายเองไหม”
Cleveland Clinic เน้นให้รีบดำเนินการเร็วที่สุด

ขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพถ้า:


  • ระดับพลังงานของคุณลดลงอย่างชัดเจนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

  • คุณทำงานที่เคยทำได้ง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว

  • หายใจไม่ทันเมื่อออกแรงเล็กน้อย

  • เวียนหัวเมื่อลุกขึ้นหรือรู้สึกใจเต้นเร็ว

  • น้ำหนักเปลี่ยนโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

  • อารมณ์ต่ำ แยกตัว หรือสูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ

  • การนอนแย่ลง (ตื่นหลายครั้ง, นอนกรนเสียงดัง, ตื่นมาเหนื่อยกว่าเข้านอน)



บอกแพทย์เรื่องนี้สามารถเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของคุณได้มากมาย
ในผู้สูงอายุหลายคน เมื่อรักษาสาเหตุ (โลหิตจาง, ไทรอยด์, ซึมเศร้า, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ, ผลข้างเคียงยา…) พลังชีวิตกลับมา แม้อาจไม่เหมือนตอนวัย 20 แต่ดีขึ้นมากเกินคาด

และผมอยากให้คุณจำไว้ในใจ:

การรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลาไม่ใช่โชคชะตาของคุณ แต่มันคือข้อความแจ้งเตือน
อย่ามองข้าม ฟังมัน สืบค้น และขอความช่วยเหลือ

ร่างกายไม่ได้ลงโทษคุณ แต่มันกำลังเตือนคุณอยู่
และคุณสมควรที่จะเข้าสู่วัยชราอย่างมีพลังและศักดิ์ศรีสูงสุด 💫



สมัครรับดวงชะตารายสัปดาห์ฟรี



Whatsapp
Facebook
Twitter
E-mail
Pinterest



มังกร ราศีกรกฎ ราศีกันย์ ราศีกุมภ์ ราศีตุลย์ ราศีธนู ราศีพฤษภ ราศีพิจิก ราศีมีน ราศีสิงห์ ราศีเมถุน ราศีเมษ

ALEGSA AI

ผู้ช่วย AI ตอบคุณในไม่กี่วินาที

ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการทำนายความฝัน, ราศี, บุคลิกภาพและความเข้ากันได้, อิทธิพลของดวงดาว และความสัมพันธ์โดยทั่วไป


ฉันคือ Patricia Alegsa

ฉันเขียนบทความเกี่ยวกับดวงชะตาและการช่วยเหลือตนเองอย่างมืออาชีพมานานกว่า 20 ปีแล้ว


สมัครรับดวงชะตารายสัปดาห์ฟรี


รับดวงชะตารายสัปดาห์และบทความใหม่ๆ ของเราเกี่ยวกับความรัก ครอบครัว การงาน ความฝัน และข่าวสารอื่นๆ ทางอีเมลของคุณ เราไม่ส่งสแปม


การวิเคราะห์ทางโหราศาสตร์และตัวเลข

  • Dreamming นักแปลความฝันออนไลน์: ด้วยปัญญาประดิษฐ์ นักแปลความฝันออนไลน์: ด้วยปัญญาประดิษฐ์ คุณต้องการรู้ความหมายของความฝันที่คุณเคยมีหรือไม่? ค้นพบพลังในการเข้าใจความฝันของคุณด้วยนักแปลความฝันออนไลน์ขั้นสูงของเราที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะตอบคุณภายในไม่กี่วินาที


แท็กที่เกี่ยวข้อง